เนื่องในวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักที่เราต่างรู้จักกันดี เราจึงอยากพาทุกคนมาสัมผัสแง่มุมหนึ่งของชาว KPF1 ว่าถ้าหากคุณเป็นพนักงานใน King Power Click แล้วชีวิตความรักของคุณจะมีหน้าตาเป็นยังไง จากบทสัมภาษณ์ของพี่นุ่น Head of HR People & Culture ของเรานั่นเอง
แนะนำตัว
สวัสดีค่ะ พี่นุ่นนะคะ สิริธร โชติศิริคุณวัฒน์ ตอนนี้เป็น Head of HR People & Culture อยู่ที่บริษัท King Power Click ค่ะ
ชีวิตการทำงาน ที่ขนานไปกับชีวิตความรัก
ตอนนี้ทำงานที่นี่มาเข้าปีที่ 7 แล้วค่ะ เพิ่งจะได้ขึ้นเป็น Head of HR เมื่อช่วงหลัง COVID-19 ที่ผ่านมานี้เอง ส่วนชีวิตความรักก็ขนานมากับชีวิตการทำงานเลยค่ะ เพราะหลังจากทำงานที่นี่ได้ 2 ปี พี่ก็ตัดสินใจแต่งงาน แล้วหลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ก็มีลูกเลย ตอนนี้ลูกก็ 3 ขวบแล้วค่ะ
การสนับสนุนจากคนในบริษัทขณะที่ต้องสร้างครอบครัวไปด้วย
ถ้าพูดถึงในมุมสวัสดิการ ทางบริษัทมีวันลาสำหรับแต่งงาน ให้ทุกคนไปเตรียมงานแต่ง พอมีลูก ก็จะมีวันลาสำหรับเลี้ยงลูก 98 วัน (ตามกฎหมาย) และมีเงินช่วยเหลือให้ตั้งแต่แต่งงานจนถึงมีเงินสวัสดิการให้ตอนคลอดลูกด้วย แต่อีกมุมหนึ่งเลยที่ประทับใจมาก ๆ คือ ในวันที่เราคลอดและต้องดูแลลูกในช่วงแรก ๆ ความสามารถในการบริหารจัดการเวลามันจะลดลงโดยอัตโนมัติ แต่ว่า HR ที่นี่ ช่วยประสานและให้คำแนะนำเรื่องเอกสารต่าง ๆ อย่างดีมาก ๆ ทำให้เราสบายใจเรื่องนี้ไปเลย
และในช่วงที่เราลำบากมาก ๆ อย่างช่วงที่พี่เลี้ยงของลูกลาออกแบบไม่บอกอะไรล่วงหน้า ไม่มีใครเลี้ยงลูกแทนได้ ตอนนั้นหาทางออกไม่เจอ ไม่รู้จะทำยังไง จึงไปปรึกษาหัวหน้าและผู้บริหารทีม ซึ่งทุกคนเข้าใจและให้การ Support อย่างดีมาก น้อง ๆ ในทีมก็เข้าใจและให้กำลังใจเราเยอะมาก จุดนั้นคือจิตใจเราแย่มาก ๆ แล้ว แต่ทุกคนในที่ทำงานที่นี่ทำให้เราผ่านจุดๆนั้นมาได้ (น้ำตาคลอ)
การได้ขึ้นมาเป็น Head of HR กระทบชีวิตครอบครัวไหม
พอมีครอบครัวแล้ว เราต้องพยายามจัดสรรทุกอย่างให้ balance ที่สุดให้ได้ เวลาทำงานก็ต้องทำให้เต็มที่ แต่หลังเวลางานก็ต้องแบ่งเวลาตัวเองมาให้ลูกให้ได้ พอได้ทำงานมา 7 ปี พี่รู้สึกว่า work life integration มันเกิดขึ้นได้จริง ๆ คือชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวมันสัมพันธ์ไปด้วยกัน
ช่วงไหนที่งานเยอะมาก เราก็ต้องทุ่มให้งานสุดๆ ไม่ได้คิดว่าต้องเข้ากี่โมง ออกกี่โมง ทำให้เต็มที่เต็มความรับผิดชอบ แต่สมมติวันไหนเรามีปัญหาส่วนตัวหรือปัญหาในครอบครัวของเราขึ้นมา ผู้บริหารและหัวหน้าที่นี่ก็เข้าใจเปิดใจรับฟัง ให้สิทธิ์เราสามารถบริหารจัดการเวลาของตัวเองกับครอบครัว ไม่ได้บังคับเรื่องเวลา แต่เราเน้นที่ผลลัพธ์ของงาน นี่แหละคือความเป็น King Power Click ค่ะ
การนำความเป็น HR มาใช้กับชีวิตครอบครัว
หัวใจหลักของงาน HR ก็คือการ communication และการ balance ความพึงพอใจของทุกคนให้ได้ เราจะต้องควบคุมอารมณ์ให้เป็น ไม่ว่าจะเจออะไรเราต้องมีสติ พี่ว่ามันเป็น skill ที่เอาไปใช้กับครอบครัวได้อัตโนมัติ เช่น สื่อสารกับลูกต้องใจเย็น ๆ ส่วนกับแฟนพี่ถ้าเขาเจอปัญหาอะไรในงาน เราก็จะคอยรับฟังและให้คำปรึกษาเขาได้ในบทบาทของคู่ชีวิต
การรักษาความรักให้มั่นคงและยั่งยืน
” สำหรับพี่ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตคู่ยั่งยืนนั่นก็คือ การให้พื้นที่ซึ่งกันและกัน “
อีกสิ่งหนึ่งคือ routine ของชีวิตคู่ ถ้าเป็นก่อนหน้าที่จะมีลูก เราจะมี movie time ด้วยกันเสมอ ๆ ทั้งไปดูที่โรงหนังและอยู่ที่บ้าน วันเสาร์-อาทิตย์ก็จะทานข้าว แต่พอมีลูก routine เราก็จะเปลี่ยนไปบ้าง วันหยุดก็จะเป็นพาลูกไปไหนดี ทุกอย่างจะไปโฟกัสที่ลูก มันจะไม่ใช่แค่เป็นคู่แล้ว
Moment ที่โรแมนติกที่สุด
แฟนพี่เป็นผู้ชายสายนิ่ง ๆ อะ (หัวเราะ) ถ้าถามถึงเรื่องที่โรแมนติกที่สุด ก็คงจะเป็นเรื่องขอแต่งงาน เป็น moment ที่ไม่คิดว่าจะมีในชีวิต คือเขาเอาลูกโป่งมาจัด เปิดเพลงขอแต่งงาน คือพี่ก็เคอะเขินนิดหนึ่ง ณ เวลานั้น เพราะไม่คิดว่าจะมี moment แบบนี้ (หัวเราะ) แต่สิ่งที่พี่ชอบที่สุดเลยคือ ถ้าวันหนึ่งพี่ขออะไรเขา เขาพร้อมที่จะทำเพื่อพี่เสมอ เพราะปกติพี่เป็นคนดูแลลูกและจัดการทุกอย่างในบ้านเป็นหลัก
หลังจากนี้วางแผนชีวิตครอบครัวไว้อย่างไรบ้าง
ถ้าวางแผนจริง ๆ ก็คือ แผนที่จะมีลูกคนเดียวเท่านั้น (หัวเราะ) เพราะอยากเลี้ยงให้มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ แล้วก็คิดว่ายังอยากมีเวลาให้กับตัวเองบ้าง เราก็ยังสนุกกับงานอยู่ด้วย นอกจากนี้ไม่ได้แผนอะไรเป็นพิเศษ พี่พยายามทำทุกวันให้ยั่งยืนที่สุด ให้ชีวิตคู่ประคองซึ่งกันและกันไปได้ รวมถึงลูกด้วย บางวันที่พี่เหนื่อยมาก ๆ จากการทำงาน ก็จะบอกเขาตรง ๆ ว่า ช่วงนี้อาจจะโฟกัสลูกได้น้อยลง เพราะเราอยากบริหารจัดการอารมณ์ตัวเองให้ดีก่อน จะได้ไม่ส่ง emotion ที่ไม่ดีของเราไปถึงลูก เขาก็จะเข้ามาช่วย support โดยอัตโนมัติ ทุกวันนี้การแต่งงานมันไม่ใช่เพียงแค่แฟนหรือสามีภรรยา แต่มันคือ คู่คิด คู่ชีวิตจริง ๆ บางทีเราต้องเป็นคนนำ บางทีเขาก็เป็นคนนำ บางทีเราเป็นเพื่อนกัน อาจจะมีหวานบ้าง ตามประสาคู่รักค่ะ (หัวเราะ)
แนะนำผู้อื่นหากคิดจะสร้างครอบครัว
ต้องบอกก่อนว่าคู่รักแต่ละคู่ไม่เหมือนกันเนอะ แต่ถ้าให้พี่พูดในภาพรวมของชีวิตคู่ อย่างแรกคือ เราต้องสามารถเป็นตัวเองได้ในขณะที่นึกถึงใจอีกฝ่ายไปด้วย อย่าปรับตัวเองทั้งหมดเพื่อใคร เพราะสักวันหนึ่งเราก็จะกลับมาเป็นตัวเราเองอยู่ดี ถึงตอนนั้น ถ้าเขารับในตัวเราไม่ได้แล้ว มันก็จะเกิดสถานการณ์ที่ไม่แฟร์กับทั้งสองฝ่าย อย่างที่สองคือต้องเข้าใจในความเป็นเขา บางทีเรายังรู้สึกหงุดหงิดตัวเองเลย มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เราจะ appreciate คู่เราตลอดเวลา อย่างสุดท้ายคือการให้เวลากับตัวเองและกับชีวิตคู่ สองอย่างนี้ต้อง balance กัน เรามีพื้นที่ให้ตัวเอง มีพื้นที่ให้เขา และมีพื้นที่ให้ความรัก ความรักมันถึงจะยั่งยืน
แล้วถ้าอยากจะมีลูก สิ่งที่เราต้องทำคือวางแผนทางการเงินให้ดี ๆ เพราะแต่ก่อนเรามีกันสองคน ค่าใช้จ่ายเราก็จะมีแค่ 2 คนนี่แหละ แต่พอมีลูกก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงแรกคงเป็นค่านม ค่าแพมเพิส พอโตขึ้นหน่อยก็จะมีค่าจ้าง Nursery ซึ่งสำคัญมากสำหรับพ่อแม่ที่ทำงานและไม่มีคนเลี้ยงดูลูกในช่วงเวลานั้น อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายสำหรับยามฉุกเฉิน เพราะว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
ทิ้งท้าย
ความรักมันไม่ได้หมายถึงแค่คู่ชีวิต แต่มันคือสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา ไม่ว่าจะที่ทำงาน สังคม หรือเพื่อน คนเหล่านี้นี่แหละคือความรักของเราทั้งหมด มันคือมวลดี ๆ ที่จะโอบอุ้มเราไว้และประกอบสร้างความเป็นเรา พี่เลยอยากให้ทุกคนมองเห็นสิ่งสำคัญที่อยู่รอบตัว หมั่นดูแล และทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพราะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ของเราจะมีจริงมั้ย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อยากให้รักษาคนที่เป็นพลังงานดี ๆ รอบตัวเราไว้ให้ดีค่ะ (แอบซึ้งเลย)
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย Soros Somha (Butterbeer) – HRD Officer และ Supassara Leelapeeraphan (Mint) – Employer Branding Intern
ภาพโดย Soros Somha (Butterbeer) – HRD Officer